แม้ว่ากระแส Pokemon Go จะลดลง แต่หลังจาก Pokemon Go Plus (แอดมินขออนุญาติเรียกสั้นๆว่า Go+) ได้เริ่มวางขายเมื่อวันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมา กระแสตอบรับดีเกินคาด ขายหมดภายในไม่กี่ชั่วโมง (แอดมินก็ไม่พลาดที่จะไปต่อคิวซื้อแต่เช้ามาเหมือนกัน) ซึ่งราคาของเจ้า Go+มีราคาอยู่ที่ $34.99 เท่านั้น ผลิตโดย Nintendo (ไม่ใช่ Niantic Labs) ส่วนตัวแอดมินได้ทดลองใช้มาแล้ววันนึงเต็มๆ เรามาดูรีวิวกันเลยดีกว่า!!!

Pokemon Go Plus คืออะไร?

Pokemon Go Plus คือ อุปกรณ์เสริมสำหรับเกม Pokemon Go เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับเหล่าผู้เล่น (เทรนเนอร์) ในการเล่นเกมมากขึ้นให้สอดคล้องกับการใช้ชีวิตประจำวันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการจับโปเกม่อน เก็บของตามเสาฟ้าโปเกสต๊อป (PokeStop) หรือแม้กระทั่งการนับระยะฟักไข่ หรือ แคนดี้จากบัดดี้ ใครนึกภาพไม่ออกเรามีคลิปให้ดูกันตั้งแต่วิธีติดตั้ง วิธีการใช้ และข้อดีข้อเสียค่ะ


14408207_1442137432468960_1985559799_o
แอดมินไปต่อคิวซื้อเจ้า Go+ ที่ร้าน GameStop ตัวกล่องธรรมดามาก ขนาดเท่ากล่องพวกเกมการ์ด ไม่มีสติกเกอร์สีรุ้งอะไรติดทั้งนั้น แถม Made in China (แอบหวังว่าจะ Made in Japan)
flpokemongoplus
ในส่วนของดีไซน์แอดมินให้คะแนนเต็มค่ะ มาพร้อมกับคลิปหนีบและสายข้อมือ ตอนแรกแอบคิดว่าใหญ่ไป แต่พอแกะดูแบตด้านหลังแล้ว ก็ถึงบางอ้อ. . .
3126571-pokemongoplus
ใครไม่อยากใส่ข้อมือก็หนีบกับที่สายกระเป๋า หรือกระเป๋าเสื้อก็เก๋ไปอีกแบบ ส่วนดัวชอบใส่ที่ข้อมือมากกว่าเพราะจะได้รู้สึกเวลามันสั่น

การติดตั้ง Pokemon Go Plus

ขั้นตอนไม่ได้ยุ่งยากอะไรเลย ดึงสลักที่เครื่อง G0+ ออก แล้วกดปุ่มจะเห็นไฟกระพริบ > เปิดBluetooth ในมือถือ > กดที่ Pokemon Go App > เลือกเมนู ลูกบอล แล้วกด Setting ที่มุมขาวบน > กดเมนู Pokemon Go Plus > กดปุ่มที่ตัว Pokemon Go Plus อีกที ง่ายมากๆ


วิธีการใช้งาน Pokemon Go Plus

(หมายเหตุ: ประโยคภาษาอังกฤษที่กำกับไว้ด้านหลัง เป็นประโยคที่จะขึ้นใน Notifications บนหน้าจะมือถือ)

  1. ถ้าเจอโปเกม่อน (ที่มีใน Pokedex แล้ว) จะสั่นและขึ้นไฟสีเขียว
  2. ถ้าเจอโปเกม่อนที่ไม่เคยเจอ (ยังไม่มีใน Pokedex) จะขึ้นไฟสีเหลือง (แนะนำว่า ถ้าเจอแสงสีเหลือง แล้วเปิด App กดจำเอง จะมีโอกาสจับสูงกว่า)
  3. เมื่อกดเก็บโปเกม่อน เครื่องจะสั่นและกระพริบไฟสีขาว 1-3 ครั้ง (ให้นึกภาพเวลาเราจับโปเกม่อนแล้วบอลมันจะขยับ 1-3 ที) หลังจากนั้น ถ้าจับได้ จะสั่นและขึ้นไฟสีรุ้ง
    • ถ้าจับสำเร็จ จะสั่นและขั้นไฟสีรุ้ง (You caught a Pokemon) ไม่บอกนะว่าจับตัวอะไรได้ อยากรู้ต้องไปกดดูใน Journal เอา
    • ถ้าหนี จะขึ้นไฟสีแดง (The Pokemon fled!)
    • ถ้าไม่กระพริบไฟขาวก่อนแล้ว ขึ้นไฟสีแดงเลย แสดงว่า ที่ใส่โปเกม่อนเต็ม ( You have no more room for Pokemon.) หรือบอลแดงหมด (You’re out of PokeBalls.)
  4. ถ้าเจอเสาฟ้าโปเกสต็อป (PokeStop) ใกล้ๆ จะขึ้นไฟสีฟ้า และเมื่อกดเก็บจะ
    • ขึ้นไฟสีรุ้งถ้าเก็บสำเร็จ (You received X items from the PokeStop.) ไม่บอกว่าเก็บอะไรได้บ้าง ให้ไปดูใน Journal เอง
    • ขึ้นไฟสีขาว ถ้ากระเป๋าเก็บของเต็ม (Your Bag is full, so you couldn’t receive any items.)
    • ขึ้นไฟสีแดง ถ้าโปเกสต็อป (PokeStop) อยู่ไกลเกินระยะเก็บ (The PokeStop is out of range.)

เปรียบเทียบข้อดีและข้อเสีย (ความคิดเห็นส่วนตัวหลังจากที่ได้ลองเล่นมาได้ 1 วันนะคะ)

ข้อดีของ Pokemon Go Plus

  1. เหมาะสำหรับนับระยะการฟักไข่กับเก็บแคนดี้จากบัดดี้มากๆ ประทับใจจุดนี้มากที่สุด
  2. ประหยัดแบตมือถืออย่างเห็นได้ชัด เพราะโดยปกติแล้วเปิดเล่นเกม Pokemon Go ไม่ถึง 1 ชม. ก็หมดแล้ว แต่อันนี้อยู่ได้จาก 1 ชม. เป็น 6 ชม. แม้ว่าตัว Go+ จะใช้ทั้ง Bluetooth, GPS, Internet, หรือ Notification flashes ก็ตาม แต่ถ้าเปิดแอพอื่น หรือเปิดเล่นด้วย อาจจะต้องใช้ Powerbank อยู่ดี แต่ส่วนตัวคิดว่า ก็ยังดีกว่าห้อยสายระโยงระยางตลอดเวลา
  3. การติดต่อกับตัวระบบทำได้ง่ายและรวดเร็วมาก ใช้เวลาเพียง 3-5 วินาที
  4. สามารถจับสัญญานเวลาเจอโปเกม่อนที่ไม่มีบนแผนที่ได้ด้วย อันนี้ก็งงเหมือนกัน มองดูแผนที่ไม่มีตัวโปเกม่อนแต่ขึ้นให้จับ เปิดหาข้อมูลในเน็ตคนอื่นก็เป็นกัน อาจจะเป็นเพราะว่าโปเกม่อนตัวนั้นเพิ่งหมดเวลา หรือ กำลังจะเกิด
  5. สะดวกและปลอดภัย สำหรับคนที่ต้องเดินทาง ขับรถ ปั่นจักรยาน หรือ นั่งเรือ
  6. ดีไซร์สวยงาม ให้ผ่าน แต่สายข้อมืออาจจะยาวไปหน่อยสำหรับผู้หญิงข้อมือเล็ก แอดมินปรับสุดแล้วยังหลวม
  7. ราคาพอรับได้ เมื่อเทียบกับ iWatch (ถ้าจะเอามาเล่น Pokemon Go นะ)

ข้อเสียของ Pokemon Go Plus

  1. ใช้ได้แต่ PokeBall (บอลแดง) ในการจับโปเกม่อนเท่านั้น ไม่มีโอกาสให้กด Razz Berry หรือ เปลี่ยนบอลอื่นๆ สำหรับเวลาจับโปเกม่อนตัวที่จับยาก หรือ ตัว CP สูงๆ ดังนั้นแอดมินเลยลองเอาบอลแดงออกให้หมด เหลือแต่บอลน้ำเงิน (Ultra Ball) กับ บอลดำ (Great Ball) สรุปว่า ไม่จับโปเกม่อนเลย แถมขึ้นว่า “บอลแดงหมด. . .” (หวังว่าอัพเดทหน้าจะแก้ไข)
  2. มีโอกาสจับแค่ครั้งเดียว ดังนั้น มีแค่จับได้ หรือ หนีไปเลย มันควรจะมีบอกว่าจับแล้วหลุด ให้จับใหม่ เพราะถ้าจับเอง (manual) เวลาบอลแตกยังให้จับใหม่จนกว่ามันจะหนีเลย
  3. การจับสัญญานโปเกม่อนที่เกิดจาก Lure Module (สากุระ) หรือ Incense (น้ำหอมเรียกโปเกม่อน) ช้ามาก บางครั้งโปเกม่อนหายไปแล้วถึงจะจับได้ (ยังดีนะที่ยังจับได้)
  4. เวลาเจอโปเกม่อน มีแค่แสงสีเขียว (เคยมีโปเกม่อนตัวนี้แล้ว) กับแสงสีเหลือง (ยังไม่เคยมีโปเกม่อน) ซึ่งอาจจะทำให้คนกำลังปั้นตัวโปรดอยู่ (แม้ว่าจะมีแล้ว) พลาดโอกาสการเก็บโปเกม่อนตัวนั้นได้ หวังว่าอัพเดทหน้าจะมีให้ตั้งค่าเลือกโปเกม่อนตัวโปรด (Favorite) แจ้งเตือนเป็นแสงสีชมพู จะได้เปิดแอพมาจับเองได้เน๊อะ
  5. การแจ้งเตือน (Notifications) ไม่แจังว่าจับโปเกม่อนอะไร ได้ CP เท่าไหร่ ต้องเข้าไปดูใน Journal เอง
  6. สัญญานหลุดบ่อย (จะขึ้นมาว่า Your Pokemon Go Plus session has ended. Select this to launch Pokemon Go!) โดยเฉพาะเวลา เปลี่ยนเครือข่ายสัญญาน เช่น เปลี่ยน WiFi เป็น 3G, 4G LTE หรือ สัญญานอ่อนก็หลุด จับโปเกม่อนเองก็ต้องต่อใหม่ แม้ว่าการเชื่อมต่อจะไม่ยาก แต่เจอบ่อย ๆ ก็หงุดหงิดเหมือนกัน หวังว่าอัพเดทหน้าจะมีการเชื่อมต่ออัตโนมัติ (auto-connection)
  7. เหมาะกับการเครื่องที่แบบช้า เช่น เดิน หรือ ปั่นจักรยาน เพราะ ถ้าใช้ตอนนั่งรถเร็ว ๆ ประสิทธิภาพของระบบการจับสัญญานลดลง

ทั้งหมดนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวจะประสบการณ์ใช้จริงเพียง 1 วัน (16/6/2016) หากมีการเปลี่ยนแปลง หรือ อัพเดทใหม่ จะแจ้งให้ทราบผ่านทาง Pokemon Go Pro Thailand Facebook

เรามีกิจกรรมมาแจก Pokemon Go Plus กันด้ว้ยนะ อย่าลืมติดตามกันล่ะ